วัดศีรษะทอง สถานที่ไหว้พระราหู อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
วัดศีรษะทอง ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนครปฐม ถือเป็นวัดชื่อดังแห่งนครชัยศรี ชวนมาร่วมกันทำบุญ ไหว้และขอพรจากพระราหู ถือเป็นอสูรที่ร้ายกาจมาก ท่ามกลางดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ และเมื่อพระราหูได้ปรากฏบนดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ไป เราจะเห็นการเกิด สุริยคราสหรือจันทรุปราคา ผู้คนทั่วโลกจึงมีความกลัวและตกใจในทันที แต่อย่างไรก็ตาม มีคนเชื่อว่าพระราหูเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภด้วย เมื่อบูชาพระราหูเราจะได้โชคลาภและความรุ่งเรืองในการงานที่เราทำ รวมถึงความมั่งคั่งทางวัฒนธรรม เช่นเงินทอง ความเชื่อเรื่องพระราหูนั้นจึงมีข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับเชื่อของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตามพระราหูยังถือเป็นหนึ่งในไพ่เทวะ 78 ใบที่มีความสำคัญ ซึ่งเกิดขึ้นจากความศรัทธาต่อเทพเจ้าและตำนานเทวะที่เป็นแหล่งพลัง ที่มีมานานนับหลายร้อยปี เพื่อเปิดโลกของพลังพิเศษแห่งดวงตาที่สาม ที่ให้เราได้รับรู้จากดวงตาซึ่งเป็นสัญชาตญาณ และที่สำคัญคือการตั้งจิตอธิษฐานเพื่อปลดล็อกความรู้สึกภายใน และรับสิ่งดีๆ ที่กำลังจะมาถึงในอนาคต
จังหวัดนครปฐม เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่งดงามในประเทศไทย มีสิ่งมหัศจรรย์ที่สืบเนื่องมาจากประวัติศาสตร์ วัดศีรษะทองหรือที่เป็นที่รู้จักกันในนามวัดที่มีหัวเทพทรงดามเรืองรองบัว คือสถานที่ที่นักท่องเที่ยวหลงใหล บทความนี้จะพาท่านสำรวจความสำคัญของวัดศีรษะทอง มีการศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง ความสำคัญทางวัฒนธรรม และประสบการณ์ทางจิตวิญญาณที่วัดนี้สามารถเสนอให้กับผู้มาเยือน
ท่องเที่ยวทำบุญ วัดศีรษะทอง วัดชื่อดังแห่งนครชัยศรี
วัดศีรษะทอง รีวิวเป็นสถานที่ที่เรามาร่วมกันทำบุญ ร่วมแสดงความบูชาพระราหู ซึ่งช่วยเนรมิตให้ชีวิตของเรามีความสุขและเจริญรุ่งเรืองตลอดทั้งปี และยังเหมาะกับการมาท่องเที่ยวอีกด้วย ถ้าเรามาทำบุญและบูชาพระราหูที่นี่ จะมีโชคลาภและความรุ่งเรืองทั้งในการงานและชีวิตส่วนตัว ซึ่งอันนี้ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดอีกมากมาย ที่ต้องมาสัมผัสกันเองนะจ๊ะ
พระราหูเป็นอสูรที่น่าเกรงขามอย่างมาก เพราะด้วยอิทธิฤทธิ์ในการสลายดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ ทุกครั้งที่พระราหูอมดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ เราจะได้เห็นเหตุการณ์สุริยคราสหรือจันทรุปราคาเกิดขึ้น ผู้คนทั่วโลกก็จะรู้สึกหวาดกลัวและตกใจอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ทว่าในด้านอีกด้านนึง เราก็มีความเชื่อที่ว่าพระราหูเป็นเทพเจ้าที่สามารถส่งโชคลาภให้กับเราได้ด้วย เมื่อเรามาทำบุญและไหว้ครองพระราหู เราก็จะได้รับโชคลาภและความรุ่งเรือง เนื่องมาจากความศรัทธาและความเคารพอย่างสูงที่มาจากเรา ต่อพระเจ้าทั้งในฐานะเทวดาและในตำนานเทวะที่มีอายุยาวนานเป็นร้อยปี
วัดศีรษะทองเป็นสัญลักษณ์ของความงดงามและความเงียบสงบที่สร้างขึ้นบนพื้นที่สวนหลวงของจังหวัดนครปฐม นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วัดนี้ได้รับการตกแต่งและปฏิบัติตามหลักธรรมเนื่องจากมีความหลากหลายในเรื่องประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ผู้เยี่ยมชมจะได้พบเห็นกับอาคารกลางที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ยอดเยี่ยม ทั้งยังมีสะพานและสระน้ำที่สวยงามที่เพิ่มความงดงามของสถานที่นี้
พระราหู กับความเชื่อของคนที่ไปกราบไว้
ประชาชนที่เดินทางไปมีความเชื่อว่าการบูชาและไหว้ครอง “พระราหู” เทวดาแห่งความโชคลาภ มีพลังในการประทับ ให้เกิดประโยชน์กับตัวเรา หรือปัดเป่าความร้าย จากบุคคลหรือสิ่งต่างๆ ให้ออกไปได้ เหมือนเป็นแรงพลังที่สามารถกำหนดความเปลี่ยนแปลงได้ในชีวิต เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ตรงตามที่เราคาดหวัง ดังนั้น ในทุกปีเมื่อเดือนธันวาคมมาถึง พวกเราจึงร่วมกันจัดพิธีไหว้เพื่อเลี้ยงดูและขอพรจากพระราหู ที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงชีวิต
เราจะมุ่งหวังให้ความร้ายที่อาจเข้ามา ถูกผลักผันกลายเป็นความโชคลาภ โชคดี ทุกการไหว้พระราหูเป็นการบูชา เพื่อเตรียมความเคารพและอุทิศตนเพื่อรับพรจากพระเจ้า ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจ ในวันที่ 10 ธันวาคม ความเชื่อนี้สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเราจัดเตรียมพร้อมสำหรับการไหว้พระราหู ช่วยกันเตรียมของพร้อมใจเพื่อเดินทางไปยังวัดที่สำคัญเพื่อปฏิบัติพิธีไหว้เทวดาของเรา ในวันนั้นพวกเราจะมองไปสู่อนาคตด้วยความหวังและความเชื่อ ด้วยศรัทธาแรงกล้า ในพระราหูว่าจะนำไปสู่ความรุ่งเรือง โชคดี และความสำเร็จในทุกๆ ด้านของชีวิตได้
ประวัติความเป็นมา ของ วัดศีรษะทอง
เรื่องราวของวัดศีรษะทองในจังหวัดนครปฐม เราจะพบประชาชนมาร่วมกันบูชาพระราหูนี้ เพื่อขอโชคลาภและความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต เรื่องราวของวัดศีรษะทอง ประวัติความเป็นมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชรัชกาลที่ 1 คือการอพยพพระแก้วมรกตจากเวียงจันทน์มาประดิษฐานที่กรุงเทพมหานคร นับตั้งแต่นั้นมา วัดศีรษะทองได้มีบทบาททางศาสนาและวัฒนธรรมที่สำคัญมากมาย
การย้ายที่ตั้งของวัดก็เป็นส่วนสำคัญ เพราะจากเดิมที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ได้ทำการขุดคลองเพื่อเป็นทางเสด็จพระราชดำเนินไปนมัสการพระปฐมเจดีย์ และปัจจุบันก็ยังคงเป็นศูนย์กลางของความเชื่อที่สำคัญในภาคนี้อยู่ เรื่องราวของวัดศีรษะทองเพื่อให้เกิดความเชื่อที่มีอยู่ในพื้นที่นี้ วัดศีรษะทองไม่เพียงเป็นสถานที่ทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่เชื่อมโยง ระหว่างศรัทธาและประวัติศาสตร์ของท้องถิ่น และยังเป็นที่มาของความเชื่อที่เติบโตและมีความหมายอย่างลึกซึ้ง ที่นี่นับเป็นสถานที่ที่สร้างสรรค์ผลงานที่ทำให้เราได้พบประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าทึ่งในทุกส่วนของชีวิต
ซึ่งวัดศีรษะทองนั้นได้มีเจ้าอาวาสรูปแรกคือหลวงพ่อไต ท่านเป็นชาวลาวเวียงจันทน์ และเมื่อท่านเริ่มอพยพมาถึงที่นี่ ได้สร้างวัดเล็กๆ แต่เสียดายไม่นานก็เริ่มกลายเป็นวัดใหญ่ที่มีเจ้าอาวาส และคงความเจริญรุ่งเรืองสืบมา ไปจนถึงหลวงพ่อน้อย นาวารัตน์ ที่เป็นต้นตำรับในการสร้างพระราหูอมจันทร์จากกะลาตาเดียว ทำให้เครื่องรางที่ท่านสร้างได้รับความนิยมและศรัทธาอย่างกว้างขวาง จนกลายเป็นชื่อเสียงของวัดศีรษะทอง และความรู้สึกนั้นยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน
ซึ่งหลังจากนั้นหลวงพ่อน้อย นาวารัตน์ ก็ได้เปลี่ยนชื่อของวัดให้เป็นวัดศีรษะทองและได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นตำบลตามชื่อของวัด และเจ้าอาวาสปัจจุบันคือพระครูวินัยธรมานิตย์ ติสาโร ภายหลังได้มีการสร้างโรงเรียนประชาบาล โรงเรียนวัดศรีษะทอง ได้เปิดทำการสอนเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2477 ในระดับชั้นประถมศึกษาชั้นป.1 – ป.4 และต่อมาได้ขยายสถานศึกษาให้ครอบคลุมการศึกษาตั้งแต่ชั้นอนุบาล ไปจนถึงมัธยมศึกษาตอนต้น
สถานที่ตั้ง และวิธีการเดินทางไปยังวัดศีรษะทอง
วัดศีรษะทองตั้งอยู่ที่พิกัด R556+M7M ตำบล ศรีษะทอง อำเภอนครชัยศรี นครปฐม 73120 วัดศีรษะทอง ปิดกี่โมงเวลาปิดคือ วันพุธ 21.00น. ส่วนวันอื่นๆ 17.00 น. เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายเพราะเป็นจุดแห่งของความศรัทธาและเชื่อมั่น เราจะได้สัมผัสความเป็นสิริมงคล การเจริญสมาธิของเราผ่านการร่วมงานที่นี่ ทุกคนได้ร่วมกันแห่ไปยังพิธียกช่อฟ้าศาลาการเปรียญ เพื่อเป็นเครื่องแสดงความเคารพและเชื่อมต่อร่วมสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความพิเศษ
เราได้รับพรแห่งความเฉลียวฉลาดจากฟ้า ได้ยกฐานะพระราหูองค์ใหญ่จากเทวดา ที่มาเป็นแรงบันดาลใจให้เราสำเร็จในทุกทางเดินของชีวิต และในวันที่สำคัญนี้ เราได้พบกับความศรัทธาในพิธีสวดนพเคราะห์ และการบูชาดวงเกิดที่เป็นการเชื่อมโยงกับจักรวาลเข้าด้วยกัน มันเป็นขั้นตอนสำคัญของความเชื่อและปฏิบัติศีลธรรม การตรวจดวงชะตา ที่รวบรวมความรู้สึก ความเชื่อ และประสบการณ์ที่มีความหมายอันอบอุ่น
การเดินทางด้วยรถยนต์จากกรุงเทพฯ เป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น เพียงเลือกใช้ถนนสายเพชรเกษมหรือสายใหม่ก็สามารถมาร่วมเที่ยวเมืองนครปฐมได้แล้ว ในระหว่างการเดินทางคุณจะพบเจอสี่แยกไฟแดงที่ท่านา อย่าลืมขับตรงไปผ่านสี่แยกนี้ และเมื่อคุณขับตรงไปเป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร คุณจะพบทางเข้าสู่วัดศีรษะทองทางด้านขวามือ หากคุณพบกับทางที่ต้องกลับรถ อย่าเป็นห่วงเพราะคุณก็สามารถทำกลับรถได้อย่างปลอดภัย และจากทางถนนเพชรเกษมคุณเพียงเพียงขับเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร คุณจะพบกับสะพานคอนกรีตที่ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือ หลังจากนั้นเพียงแค่เลี้ยวซ้ายข้ามสะพาน คุณจะเห็นทางรถไฟและจะพบกับวัดศีรษะทองที่อยู่ข้างหน้า การเดินทางครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเรียนรู้ถนนและทางเดินทาง แต่ยังเติมเต็มความหลงใหลและความประทับใจให้กับทริปที่น่าจดจำ แบบสุดพิเศษในการเดินทางนี้
วัดศีรษะทอง เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมของชาวนครปฐม นอกจากความงดงามแล้ว วัดนี้ยังมีบทบาทในการรักษาและสืบสานประเพณีทางศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชนในพื้นที่ให้สืบทอดต่อไป
เมื่อสองเท้าของท่านเดินเข้าสู่วัดศีรษะทอง ทันทีที่ท่านจะได้รับความเงียบสงบ เหมาะสำหรับการนั่งสมาธิในบรรยากาศที่เงียบสงบและสะอาด ที่นี่เป็นสถานที่ที่ท่านสามารถหาความสงบและพลังใหม่ๆ ในวันที่เครียดได้ สำหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติธรรมทางศาสนา ท่านสามารถร่วมกิจกรรมการบูชาและกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำในวันพิเศษของวัด
วัดศีรษะทองเป็นสถานที่ที่ไม่เพียงแต่มีความงดงามและสวยงามในเรื่องสถาปัตยกรรม เเต่ยังเป็นแหล่งที่ให้ผู้มาเยือนได้รับประสบการณ์ทางจิตวิญญาณที่เข้มแข็ง และสามารถพัฒนาจิตใจของตนเองได้อีกด้วย เพื่อรับมือกับปัญหาต่างๆในชีวิต และขอพรเพื่อให้สิ่งเลวร้ายผ่านพ้นไป
ท้ายที่สุดนี้ ขอให้พระราหูทรงพระกรุณานำความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และความสำเร็จมาบรรจบอยู่ท่ามกลางเราทุกคน ขอให้เรามีความก้าวหน้าและความคิดสร้างสรรค์ มีเรื่องราวดีในทุกๆ วันของชีวิต เพื่อความเป็นสุขและความเจริญรุ่งเรืองที่ไม่มีที่สิ้นสุด